ปราสาทหินพนมรุ้ง
ในหนึ่งปีจะมีเพียง 4 วัน เท่านั้นที่ ปราสาทหินพนมรุ้งจะมีตะวันขึ้น หรือตก ตรงลอดช่องประตูทั้ง 15 ช่อง ได้ตรงอย่างน่าพิศวง ปรากฏการณ์แบบนี้ชีวิตหนึ่งต้องไปดู
ภูมิปัญญาของคนโบราณนั้นน่าทึ่ง นอกจากสถาปัตยกรรม ของปราสาทหินพนมรุ้งอันยิ่งใหญ่และงดงามแล้ว ใคร เลยจะรู้ว่า มีวันเวลาที่เขาคำนวณได้อย่างน่าพิศวง ตรงที่ ในฤดูกาลต่างกัน เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น จะส่องแสงลอดช่อง ตรงกรอบประตูทั้ง 15 บาน ที่เรียงกันได้อย่างเหลือเชื่อ
ในเดือนเมษายนและกันยายน และ จะเห็นมหัศจรรย์พระอาทิตย์ ตกลอดช่องกรอบประตูในเดอื นมีนาคมและเดอื นตุลาคม ในหนึ่งปีจะมีเพียง 4 วัน เท่านั้นที่ ปราสาทหินพนมรุ้งจะมีตะวันขึ้น หรือตก ตรงลอดช่องประตูทั้ง 15 ช่อง ได้ตรงอย่างน่าพิศวง ปรากฏการณ์แบบนี้ชีวิตหนึ่งต้องไปดู

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ราว 06.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: วันพระอาทิตย์ขึ้นตรงกรอบประตูในฤดูร้อน
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ด้านหน้ากรอบประตูด้านทิศตะวันตก
แหล่งเตาโบราณ
ในบริเวณอำเภอบ้านกรวด ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ไปตามทางหลวงหมายเลข 2075 ประมาณ 66 กิโลเมตร นักโบราณคดีได้สำรวจพบเตาเผา และเครื่องปั้นดินเผาโบราณจำนวนมาก เตาโบราณเหล่านี้มีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 14-19 เป็นแหล่งผลิตเครื่องถ้วยขอม เพื่อเป็นสินค้าป้อนให้กับเมืองต่างๆ โดยมีการทำเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และขยายขอบเขตการผลิตไปยังพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งเตาโบราณ 2 แห่ง คือ เตาสวายและเตานายเจียน ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอบ้านกรวดเป็นระยะทาง 5 และ 10 กิโลเมตร ตามลำดับ ส่วนเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบสามารถชมได้ที่ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้สถาบันราชภัฏบุรีรัมย์หรือที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
แหล่งหินตัด
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอบ้านกรวด ติดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ห่างจากตัวอำเภอบ้านกรวด 7 กิโลเมตร บนเส้นทางบ้านกรวด - ตาพระยา และแยกจากถนนใหญ่ไปอีก 3 กิโลเมตร ทางลาดยางตลอดสายเป็นแหล่งหินทรายที่คนสมัยขอม ตัดหินเอาไปสร้างปราสาทต่างๆ ในเขตอีสานใต้ อยู่บริเวณเขากลอยและเขากระเจียว มีเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ ที่น่าสนใจคือ หินบางก้อนปรากฏรอยตอกเนื้อหินให้เป็นรูเรียงกันเป็นแนวยาว หินบางก้อนถูกเซาะสกัดเป็นร่องขาดจากกัน และยังมีหินที่ถูกตัดและงัดขึ้นมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยมอยู่ทั่วไป
เขื่อนลำนางรอง
ตั้งอยู่แยกจากอนุสาวรีย์เราสู้ไป 200 เมตร เป็นพื้นที่โครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงตามพระราชดำริ เขื่อนลำนางรองเป็นเขื่อนดิน มีถนนลาดยางบนสันเขื่อนสำหรับชมทัศนียภาพ และมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำ นอกจากเขื่อนนี้จะเก็บน้ำไว้ใช้ในด้านการเกษตรแล้ว ยังได้รับการปรับปรุงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีบ้านพักรับรอง ห้องประชุม และค่ายพักแรม ติดต่อสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำนางรองซึ่งอยู่ก่อนถึงสันเขื่อนในเวลาราชการ โทร. 0 4460 6336 ในบริเวณเดียวกันยังมีโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป (ดอยคำ) ผลิตผักผลไม้กระป๋องอาทิ ข้าวโพดอ่อน หน่อไม้ และน้ำมะเขือเทศ
ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้
ตั้งอยู่ภายในสถาบันราชภัฏบุรีรัมย์ ถนนจิระ เป็นสถานที่รวบรวมจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุอันมีค่าทางประวัติศาสตร์โบราณคดีและวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจและเป็นแหล่งข้อมูลเพื่อการค้นคว้าวิจัย นิทรรศการที่จัดแสดงมีหลากหลายหัวข้อ อาทิ นิทรรศการเกี่ยวกับช้าง ชาวส่วยผ้าพื้นเมือง จิตรกรรมฝาผนัง เครื่องถ้วยและเตาเผาโบราณ วิถีชีวิตชาวอีสาน สภาพภูมิศาสตร์ชุมชนโบราณของบุรีรัมย์ เปิดทุกวันยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 8.30 - 19.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ เปิดถึงเวลา 16.00 น. สอบถามรายละเอียด โทร. 0 4561 1211, 0 4561 7588 ต่อ 159
ชมเมเปิ้ลเปลี่ยนสีที่ภูกระดึง
เมเปิ้ลเปลี่ยนสีอาจมีอยู่หลายแห่งในเมืองไทย แต่จะ หาที่ไหนสวยงามไปกว่าเมเปิ้ลในป่าปิดของภูกระดึงนั้นไม่มี ที่นี่จึงเป็นที่สุดแห่งความงาม
อาณาเขตป่าปิดด้านทิศเหนือบนภูกระดึง นอกจากเป็นเขตป่าอนุรักษ์แล้ว ยังเป็นที่รวมของลำธารเล็กๆ หลายสายซึ่งไหลผ่านผืนป่าแห่งนี้ ก่อเกิดเป็นน้ำตกน้อยใหญ่สวยงามหลายแห่ง และตามริมลำธารเหล่านี้เองที่เป็นถิ่นของเมเปิ้ลที่ทุกฤดูหนาว จะพากันเปลี่ยนสีของใบเป็นสีแดงสด บ้างก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นดินเป็นภาพที่งดงามที่สุด โดยเฉพาะเมเปิ้ลต้นที่อยู่หน้าน้ำตก ขุนพอง ซึ่งต้องขออนุญาตก่อนเข้าไปเที่ยวชม

ชมเมเปิ้ลเปลี่ยนสีที่ภูกระดึง
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ช่วงเวลาเช้าราว 08.00 - 10.00 น.
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: เดือนธันวาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: บริเวณน้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกผาน้ำผ่า น้ำตกขุนพอง
เปราะภูในสายหมอกที่แปกดำ ภูหลวง
มนต์ขลังของฤดูฝนบนภูหลวงนั้นคือ สายหมอก ฉ่ำเย็น นี่เป็นวันเวลาของดอกเปราะภูสีชมพู ซึ่งจะ พากันบานสะพรั่งทั้งผืนป่า
ล่วงถึงต้นฤดูฝนราวเดือนมิถุนายน บนภูหลวง จ.เลยนั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของดอกไม้ต้นฤดูฝนซึ่งพากันผลิ ดอกสวยงามขึ้นอยู่ตามลานหิน เช่น โคกนกกระบาและลานสุริยัน แต่ไกลออกไปในป่าสนบริเวณที่เรียกว่า แปกดำ เดินเท้าถึงได้ในเวลาชั่วโมงเศษๆ
ที่นั่นดอกเปราะภูสีชมพู (Caulokaempferia violacea) สวยสดกำลังพากัน ออกดอกสะพรั่งทั้งผืนป่า มีเวลาสวยที่สุดอยู่แค่เดือนเดียว พลาดปีนี้ ต้องรออีกปีหนึ่งถึงจะมีโอกาสอีกครั้ง
เปราะภูในสายหมอกที่แปกดำ ภูหลวง
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เวลาที่มีหมอกลงส่วนมากเป็นช่วงเช้า
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: กลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ป่าสนบริเวณที่เรียกว่า แปกดี
พระธาตุศรีสองรัก
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตร จากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร พระธาตุศรีสองรักมีรูปทรงสัณฐาน คล้ายพระธาตุพนม สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2103 การสร้างพระธาตุศรีสองรักขึ้นนี้เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) องค์พระธาตุสูงประมาณ 30 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีงานนมัสการใหญ่โตทุกปีในช่วงเดือน 6 มีประชาชนเคารพนับถือมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกศิลปะธิเบตด้วย
น้ำตกปลาบ่า หรือน้ำตกตาดสาน
อยู่ที่หมู่ 1 บ้านปลาบ่า ตำบลปลาบ่า เป็นน้ำตกที่ตกมาจากแผ่นหินขนาดใหญ่อย่างสวยงามลงสู่แอ่งน้ำ เบื้องล่างเหมาะสำหรับเล่นน้ำและนั่งพักผ่อนรับประทานอาหาร บริเวณน้ำตกยังไม่มีร้านอาหาร
การเดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 203 (ภูเรือ - ด่านซ้าย) บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 57 - 58 เลี้ยวซ้ายตรงสถานีทดลองเกษตรที่สูง-ภูเรือ (บ้านกกโพธิ์) เข้าไปตามทางราดยาง 6.7 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านปลาบ่า จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางลูกรังอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตก รวมระยะทางจากอำเภอภูเรือถึงน้ำตก 18 กิโลเมตร นักท่องเที่ยว ที่จะไปเที่ยวน้ำตกปลาบ่าควรใช้รถตู้หรือรถกระบะ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: เวลาที่มีหมอกลงส่วนมากเป็นช่วงเช้า
ฤดูกาลที่ดีที่สุด: กลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม
จุดชมวิวที่ดีที่สุด: ป่าสนบริเวณที่เรียกว่า แปกดำ
พระธาตุศรีสองรัก
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด 83 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 203 แล้วแยกขวาตรงกิโลเมตรที่ 66 เข้าทางหลวงหมายเลข 2013 อีก 15 กิโลเมตร จากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง 2113 อีก 1 กิโลเมตร พระธาตุศรีสองรักมีรูปทรงสัณฐาน คล้ายพระธาตุพนม สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2103 การสร้างพระธาตุศรีสองรักขึ้นนี้เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) องค์พระธาตุสูงประมาณ 30 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีงานนมัสการใหญ่โตทุกปีในช่วงเดือน 6 มีประชาชนเคารพนับถือมาก นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกศิลปะธิเบตด้วย
น้ำตกปลาบ่า หรือน้ำตกตาดสาน
อยู่ที่หมู่ 1 บ้านปลาบ่า ตำบลปลาบ่า เป็นน้ำตกที่ตกมาจากแผ่นหินขนาดใหญ่อย่างสวยงามลงสู่แอ่งน้ำ เบื้องล่างเหมาะสำหรับเล่นน้ำและนั่งพักผ่อนรับประทานอาหาร บริเวณน้ำตกยังไม่มีร้านอาหาร
การเดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 203 (ภูเรือ - ด่านซ้าย) บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 57 - 58 เลี้ยวซ้ายตรงสถานีทดลองเกษตรที่สูง-ภูเรือ (บ้านกกโพธิ์) เข้าไปตามทางราดยาง 6.7 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านปลาบ่า จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามทางลูกรังอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตก รวมระยะทางจากอำเภอภูเรือถึงน้ำตก 18 กิโลเมตร นักท่องเที่ยว ที่จะไปเที่ยวน้ำตกปลาบ่าควรใช้รถตู้หรือรถกระบะ
พระธาตุสัจจะ
ตั้งอยู่บริเวณวัดลาดปู่ บ้านท่าลี่ ตำบลท่าลี่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 201 แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2115 สายท่าลี่ - อาฮี ห่างจากที่ว่าการอำเภอท่าลี่ประมาณ 2 กิโลเมตร องค์ประกอบของพระธาตุสัจจะ ประกอบด้วยดอกบัวบานมีกลีบ 3 ชั้น สูงประมาณ 1 เมตร ตั้งอยู่รอบองค์พระธาตุสัจจะองค์พระธาตุสูง 33 เมตร มีสัญลักษณ์คล้ายคลึงกับพระธาตุพนม มีเศวตฉัตร 7 ชั้น ประดิษฐานไว้ บนยอดสุดของพระธาตุสัจจะ
น้ำตกแก่งสองคน
อยู่ที่บ้านหัวนายูง ตำบลด่านซ้าย เดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 2013 (ด่านซ้าย - นครไทย) อยู่เลยพระธาตุศรีสองรักไปราว 400 เมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปตามทางลูกรังอีก 2 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงน้ำตก ลักษณะของน้ำตก เป็นธารน้ำกว้างไหลผ่านก้อนหินใหญ่น้อยมากมายลดหลั่นกันลงมาอย่างน่าชม ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เขียวครึ้มทั่วบริเวณ เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
น้ำตกตาดหมี
เป็นน้ำตกที่กั้นลำน้ำหู ซึ่งมีต้นกำเนิดจากภูขาด อยู่ในพื้นที่ของตำบลนาพึง การเดินทางจากอำเภอถึงบริเวณน้ำตก โดยทางสายนาแห้ว-ด่านซ้าย ถึงทางแยกบ้านเกลี้ยงเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร จากบ้านเกลี้ยงเข้าไปถึงน้ำตก เป็นทางเดินเท้าประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที น้ำตกตาดหมีเป็นน้ำตกที่สวยงามมาก มีน้ำตลอดทั้งปี มีความสูงประมาณ 30 เมตร นอกจากนั้นยังมีลำธารน้อยใหญ่ แก่งต่าง ๆ บริเวณน้ำตกเป็นป่าทึบเนื่องจากไม่มีการตัดไม้ทำลายป่า
อ้างอิง: http://www.hotelsthailand.com/northeast/buriram/places.cfm
http://www.hotelsthailand.com/northeast/loei/places.cfm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น